เมื่อพูดถึงเวียดนามใครๆก็มักจะระลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ทราบไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกมากมายในเวียดนามที่ในขณะนี้กำลังเป็นกระแสอย่างมากๆที่คุณไปเวียดนามจำเป็นต้องไม่พลาด พวกเรามาอัพเดทกันวันท่องเที่ยวเวียดนามทั้งทีจำเป็นต้องสุดๆ5 สถานที่ที่แหน่งใดกันบ้าง เริ่มกันเลย
1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดดอย อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังโดยประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา ภูเขาบานา เคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยข้างบนเป็นบ้านพักรวมทั้งโรงแรมของชาวประเทศฝรั่งเศสยุคเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 ข้างหลังการรบชาวฝรั่งเศสแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่นับเป็นเวลาหลายปี กระทั่งถูกกลับมาบูรณะเป็นเมืองที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวมากมายเป็นจำนวนมากอีกทีในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับเพื่อการนั่งกระเช้าจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน ค่าใช้สอยสำหรับเพื่อการก่อสร้างเคเบิลคาร์ช่วงแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้วก็ตอนที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บานาฮิลล์ ถูกทำขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่โด่งดังจากออสเตรเลีย เครื่องไม้เครื่องมือรวมทั้งเครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งสิ้น 94 เคบิน ตะกร้ามีอีกทั้งแบบเปิดเตียนโล่งโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ภายในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน
2.เที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงามรวมทั้งน่ามาเยี่ยมมากมายแห่งหนึ่งของโลก รวมทั้งวันนี้เราจะขอชี้แนะสถานที่เที่ยวที่มีอีกทั้งความงดงาม แล้วก็ความซาบซึ้ง
โดยสถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างหมายถึงถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) ฯลฯกำเนิดของแม่น้ำชอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากข้างในถ้ำ แล้วก็ได้รับการยอมรับจาก นักสำรวจถ้ำทั่วทั้งโลกว่า เป็นถ้ำอันดับหนึ่งของโลก เนื่องมาจากเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการได้แก่ น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำสูงที่สุด ยาวที่สุด รวมทั้งกว้างที่สุด
“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยี่ยมมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสะดุดตาทางธรรมชาติรวมทั้งทางธรรีวิทยา ที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) โน่นจึงทำให้อุทยานที่นี้มีทำเลที่ตั้งแบบหินปูนที่โบราณที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จะ (Bo Trach) และอำเภอไม่ญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) รวมทั้งติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาตอนใต้ราวๆ 500 กม. ภายในเขตอุทยานมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้เป็นที่รู้จักในความงามของถ้ำที่มีอยู่จำนวนมาก แล้วก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีสายธารใต้ดินขนาดใหญ่
3.เที่ยวอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
ฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง คือสถานที่เที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่ชื่อเสียงมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่สมควรพลาดดู โดยที่นี่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโกเนื่องจากว่ามีความสวยของธรรมชาติเยอะแยะ
ฮาลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาลองตั้งอยู่ทางภาคเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ภายในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางตะวันออกราวๆ 170 กม. และอยู่ใกล้กับประเทศจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งผอง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กิโลเมตร มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความงามซุกซ่อนอยู่
สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำดิ่ง ตามตำนานชาวบ้านเวียดนามบรรยายกันว่า ในอดีตที่ชาวเวียดนามกำลังรบกับจีน เทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งต่อมามังกรพวกนี้ได้ดำตรงลงสู่ท้องทะเลรอบๆอ่าวฮาลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดาแล้วก็หชูพุ่งกระเด็นออกมากลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะป้องกันผู้รุกราน รวมทั้งบางตำนานเอ่ยถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่รอบๆก้นอ่าว
4.เที่ยวเมืองซาปา นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง คือเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอันสวยสดงดงามที่กลุ้มรุมไปด้วยขุนคีรีจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบตลอดปีทำให้รุ่งเช้าของตรงนี้มีไอหมอกปกคลุมสวย ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั้งโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก
ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาปา เป็นเมืองเล็กๆที่นักท่องเที่ยวฝรั่งเริ่มเดินทางมาพักตั้งแต่สมัยที่ประเทศฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยชาวตะวันตกถูกใจที่นี่เพราะอากาศดีและเงียบสงบ ถัดมาซาปาจึงเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมจากนักเดินทางเยอะขึ้นเรื่อยๆจนถึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี
5.เที่ยวหมุยแหน เทือกเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักเดินทางที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเนื่องจากภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่ผู้คนจำนวนมากคุ้นเคยกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ชิดกับชายฝั่งทะเล จึงมีแดดแล้วก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่ คือ ภูเขาทรายขาวรวมทั้งเทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang แล้วก็มีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่ชื่นชอบมากกว่าในสายตาของคนถ่ายภาพ เพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีสวยกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย
รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับในการมาท่องเที่ยวเป็น ช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเวลาเย็น เนื่องจากกลางวันถึงตอนบ่ายนั้นอากาศและก็แดดจัดมาก
เป็นยังไงบ้างขา สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตระเวนท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ
ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เนื่องจากเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนจำนวนไม่น้อยรู้จักกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่แล้วก็อยู่ติดกับชายทะเล จึงมีแดดรวมทั้งลมที่แรงมากมายทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่ง คือ ภูเขาทรายขาวและภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และมีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของตากล้อง เนื่องจากว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่าง ซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย
ข้อมูลอื่นๆ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ขณะที่เยี่ยมที่สุดสำหรับในการมาท่องเที่ยว คือ เวลาเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็นด้วยเหตุว่ากลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศแล้วก็แดดแรงมาก
เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตระเวนท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม
ท่องเที่ยว - Friday เที่ยวไหนกัน วันศุกร์ 